ยินดีต้อนรับ...สู่...ธรรมดีจริง

สังคมจะดีเพราะมีความกตัญญู สังคมจะสวยหรูความกตัญญูเป็นเครื่องนำ

วันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

คู่มือโฆษก


รวมบทกลอน และกวี พิธีเปิดงานต่างๆ
รวบรวมโดย พระมหามงคล จรณธมฺโม
วัดบุณยประดิษฐ์ (พระอารามหลวง)
บางไผ่ บางแค กรุงเทพมหานคร

******************
ขอต้อนรับขับสู้เหมือนหมู่ญาติ ถึงแม้ขาดความร่ำรวยด้วยทรัพย์สิน
แต่น้ำใจไมตรีมีอาจิณ พร้อมจักรินหลั่งสู่ผู้มาเยือน

ขอเชิญชวนหมู่ญาติประกาศการ บำเพ็ญทานเสริมสร้างทางกุศล
ขอเชิญชวนมวลประชาสาธุชน ร่วมกุศลเลิ้ศล้ำด้วยทำทาน
ได้เป็นสินทานมัยดั่งหมายมุ่ง เพื่อบำรุงวัดไว้อย่าไหวหวั่น
ผลคือสุขฤทัยได้ทันใดพลัน เชิญทุกท่านทางนี้ของดีเอย

มรดกพุทธศาสน์สุดล้ำค่า อันปู่ย่าของเราเฝ้าหวงแหน
มรดกนำมาจากต่างแดน เป็นแบบแผนที่ดีสู่สังคม
เหตุไฉนลูกหลานไทยไม่เดือนร้อน ช่วยเกื้อกูลอาทรให้เหมาะสม
เพื่อวิญญาณปู่ย่าได้ชื่นชม ให้อุดมประเสริฐเลิศวิไล
มรดกพุทธศาสน์สุดล้ำค่า โปรดช่วยกันพัฒนาความเลื่อมใส
ช่วยรักษาให้คงอยู่คู่ชาติไทย สืบอายุพุทธศาสน์ไว้ให้ยั่งยืน

ชีวิตนี้มีหวังยังเกิด ทำไว้เถิดความดีย่อมมีผล
บุญจะตามลิขิตชีวิตคน ติดตามตนต่อไปในโลกา
อยู่ก็ดีไปก็ดีมีประโยชน์ ได้สร้างโบสถ์สร้างวัดด้วยหัตถา
ได้ช่วยชาติบ้านเมืองเลื่องลือชา ได้ฉายาว่าตนเป็นคนดี
ได้มาปิดทองพระเพื่อละบาป คนไม่ทราบช่างเขาแต่เราเห็น
จะปิดทองหลังหน้าพระไม่จำเป็น สิ่งที่เห็นเด่นชัดคือศรัทธา




ขออภิวาทสัพพัญญูผู้ทรงศรี ดวงฤดีน้อมจิตติดประสงค์
อัญชุลีนิ้วน้อยค่อยประจง แล้วกราบลงตรงบาทพระศาสดา
นมัสการพระธรรมที่ล้ำเลิศ จิตประเสริฐกว่าใครในโลกหล้า
พุทธพจน์พุทธธรรมพระสัมมา ชุมกายารักษาจิตพิชิตชัย
ขอนอบน้อมพระสงฆ์ผู้ทรงศักดิ์ เหล่าผู้รักษาธรรมนำสมัย
ประกาศเกียรติศาสนาขจรไกล เสริมบุญให้ศรัทธาสาธุชน
กราบอาจารย์ท่านครูผู้สอนสั่ง ประดุจดังแสงสุรีย์ที่เวหน
แม้นศิษย์มีดีชั่วในตัวตน บุญคุณล้นไม่ลืมเลือนคำเตือนครู


ดอกไม้ช่อน้อย ๆ ค่อย ๆบาน งามตระการผู้พบเห็นเป็นสุขสันต์
อีกไม่นานร่วงสู่ดินสิ้นทั้งนั้น ก่อนจากกันให้ใครใครได้ชื่นชม
เปรียบเด็กน้อยค่อยเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ทุกวันไซร้หมั่นทำดีมีสะสม
ใครพบเห็นเป็นที่น่านิยม คนยังชมแม้ล่วงลับดับขันเอย.


บุญคือความดีแห่งชีวิต นำดวงจิตพบสุขทุกสถาน
บุญนำให้ทรัพย์ยิ่งศฤงคาร บุญนำผ่านสุขสมความร่มเย็น
บุญช่วยให้ผิวพรรณสีสันสวย บุญส่งช่วยชูตามให้งามเด่น
บุญเหมือนเงาตามนำผู้บำเพ็ญ บุญยังเป็นสื่อนำทางสัมมา
บุญช่วยให้อายุยืนอยู่ยาวมั่น บุญช่วยสรรค์ให้พลังอย่างสูงค่า
บุญช่วยนำส่งเสริมเพิ่มปัญญา บุญช่วยพาสู่ตระกูลสมบูรณ์ครัน
บุญช่วยให้ห่างโศกไกลโรคร้าย บุญช่วยให้ไกลทุกข์พบสุขสันต์
บุญช่วยให้สดชื่นทุกคืนวัน บุญช่วยให้หลับฝันอันสลาย
บุญช่วยให้เบิกบานสำราญจิต บุญช่วยให้ชีวิตมีความหมาย
บุญช่วยเสริมเพิ่มคุณอุ่นใจกาย บุญสื่อสายโยงใจใกล้นิพพาน
จึงควรกอบก่อบุญเป็นทุนไว้ เพื่อพ้นภัยโศกโอฆสงสาร
จุดช่วยพ้นจากแดนแสนกันดาร ก่อบุญทานดีไว้ให้แก่ตน.


วัดจะอยู่คู่โลกเพราะพุทธบริษัทช่วย วัดจะสวยช่วยกันสร้างอย่าห่างหนี
วัดจะทรุดเพราะชาวพุทธไม่สามัคคี มันจะดีหรือร้ายลองทายดู
วัดจะร้างพากันสร้างอย่าร้างวัด คนเซซัดอย่าไปซ้ำกรรมของเขา
ช่วยกันอุดหนุนค้ำจุนบุญของเรา เหมือนเด็กเยาว์ช่วยจูงพยุงเดิน
วัดจะเจริญเพราะเงินชาวบ้านสร้าง บ้านถูกทางพูนสวัสดิ์เพราะวัดสอน
บ้านกับวัดขัดกันตัดญาติคงขาดรอน ถ้าวัดหย่อนบ้านคงแยกแตกกัน

ตื่นเถิดพี่น้องผองชาวพุทธ อย่ามัวหลับอุตหลุดอยู่เลยหนา
หลงสิ่งใดมั่วสิ่งใดในโลกา รู้ไหมว่าแสงพระธรรมใกล้ร่ำไร
จะลาลับดับหายไปจากโลก ความวิปโยคเข้าครอบงำทำไฉน
อีกหน่อยเดือนที่ค้างฟ้ามลายไป จะเหลือสิ่งใดเมื่ออุกาบาทฟาดโลกเรา
โยเร คริสต์ อิสลาม พราหมณ์ ฮินดู ต่างกอบกู้เชิดชูศาสนาเขา
เราชาวพุทธจะมัวหลับอยู่ใยเล่า ตื่นมารับเอาแสงพระธรรมให้ฉ่ำเย็น



อย่าท้อแท้กับชีวิตที่ผิดพลาด อย่าขยาดกับชีวิตที่ผิดหวัง
อย่ามัวเศร้ากับชีวิตที่ต้องพัง อย่าหมดหวังลมหายใจคุณยังมี
จงเริ่มใหม่ทั้งอดีตที่ผิดพลาด จงคิดวาดอนาคตที่คุณหวัง
จงเสริมสร้างความดีเป็นพลัง จงสมหวังปรารถนาที่คุณมี
ชีวิตคุณจะสมหวังได้ดังจิต ชีวิตคุณยังมีสิทธิ์ได้สมหวัง
ชีวิตคุณมีความดีเป็นพลัง ชีวิตคุณมีความหวังเป็นทางเดิน
ขอมอบกลอนบทนี้เพื่อชีวิต ขอเป็นมิตรกับทุกคนที่สิ้นหวัง
ขอมอบใจดวงนี้เป็นพลัง ขอทุกคนจงสมหวังทุกสิ่งเทอญ




แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


อันความดีที่ทำน้อมนำจิต คงสัมฤทธิ์ตามชีวิตหาสูญไม่
เหมือนดังเกลือรสเค็มรู้เต็มใจ เล็กเท่าไหร่ก็ยังเค็มเต็มไพบูลย์
ด้วยความดีนี้ไซร้ให้ทำเถิด พร้อมจะความสุขเลิศไม่เลื่อมสูญ
เหมือนดังเกลือรสเค็มเต็มมากพูน ทวีคูณความดีเป็นศรีเอย


ใครเปรียบเทียบอาตมาเหมือนดาราไม่เคยโกรธ ใครจะโทษเสียงอาตมาไม่เคยสน
มีคนทักว่าเหมือนแดน ดีทูบี มาหลายคน แต่สุดทนมีคนทักว่าหน้าหม่ำน่าขำจริง ๆ


หากโยมทอดทิ้งวัดวา โบสถ์วิหารศาลาคงมอดม้วยสกุลสงฆ์
กุฏิร้างหักพังพินาศลง โยมจะท่องนะโม ตัสสะ ให้พระสงฆ์ที่ไหนฟัง


วัฒนธรรมลำหน้านานาเทศ สุดวิเศษคือไทยหาใดเหมือน
งามคุณค่ายิ่งใหญ่ไม่ลบเลือน คอยย้ำเตือนพวกเราเฝ้าอภิบาล
อย่างมงายหลงใหลของใครอื่น เฝ้าชมชื่นมิชมตาน่าสงสาร
ของไทยดีมีค่ามาช้านาน อย่าห้าวหาญลืมตัววัวลืม…


ตั้งอกตั้งใจ ตั้งไว้ให้ดี ตั้งแต่บัดนี้ ขอจงตั้งใจ ตั้งตัวตั้งต้น ตั้งตนตั้งมั่น ฝึกฝนฝ่าฝัน ฝ่าฟันฝันใฝ่
อบรมบ่มเพราะ เจาะจิตเจาะใจ ส่งเสริมสอดไส้ สวมใส่ศีลธรรม


อยากเห็นทุกคนเป็นคนดี อยากเห็นมิตรไมตรีอันสดใส อยากเห็นความรักความจริงใจ อยากเห็นสังคมไทยมีศีลธรรม


การสั่งสมก่อสร้างซึ่งทางบุญ คือสร้างคุณความดีไม่มีเน่า
จะนำสุขมาให้สู่ใจเรา ใหม่หรือเก่าให้ผลดลบันดาล
อย่าดูหมิ่นบุญกรรมว่าทำน้อย จักไม่ต้อยตามต้องสนองผล
แม้ตุ่มน้ำเปิดหงายรับสายชล เต็มล้นด้วยอุทกที่ตกลง
อันนักปราชญ์สั่งสมบ่มบุญบ่อย ทีละน้อยทำไปไม่ไหลหลง
ย่อมเต็มล้นด้วยบุญนั่นอย่างมั่นคง บุญย่อมส่งพบสถานวิมานทอง


การทำบุญทำทานหมั่นทำเถิด เป็นบ่อเกิดแห่งความสุขทุกสถาน
อย่าท้อถอยศรัทธาหมั่นทำทาน ผลบุญนั้นตามสนองไม่หมองมัว
แม้แต่ในชาตินี้ก็มีสุข บุญจะปลุกให้เราตื่นจากความชั่ว
ใครทำดีได้ดีเป็นของตัว จงละชั่ว ทำดีเถิดประเสริฐเอย






















มนต์เสน่ห์งานวัด
มนต์ เสียงเพลงลอยลม ชมแสงสี เสน่ห์ แห่งราตรีที่อยู่ใกล้
งาน รื่นเริงประจำปี ที่ รวมใจ วัด หวังให้ คนใกล้วัดยังศรัทธา
พี่ ลูกชิ้น น้องยืนร้องจ้อง สายไหม หนังเก้ายอดชุดใหญ่เค้าใจกล้า
น้องวิ่งนำไปรอขอขึ้น ม้า ขึ้นชิงช้าสวรรค์ กันเถอะเรา
กิน หอยทอดของต้อยช่างอร่อยล้ำ แถม น้ำอ้อยน้ำปั่นกับมันเผา
ขนมเบื้อง เหลืองอร่ามอยู่กลางเตา อิ่มเบาเบา กับ โรตี ของพี่บัง
ช่วยบูชาธูปเทียนทองพร้อมดอกไม้ ปิดทองหลวงพ่อสินองค์ใหญ่ร่ายมนต์ขลัง
เสี่ยงเซียมซี บอกหลวงพ่อขอพลัง หยิบเศษตังค์หยอดตู้ ฟื้นฟูวัด
ตักบาตรนพเคราะห์คลายเศร้าโศก ดวงอับโชคให้พระธรรมช่วยกำจัด
ถวายสังฆทาน เฮฮา สารพัด ควักธนบัตรเสียบต้นผ้าป่า ให้ลานตา
ภาพของความประทับใจในปีก่อน รอวันย้อนปัจจุบัน ความหรรษา
บรรยากาศบ้าน-วัด ร่วมพัฒนา คือที่มาของ ตำนานงานประจำปี











ยิ้ม

ยิ้มเถอะยิ้ม ยิ้มเย็นเย็น อย่าเป็นยักษ์
ยิ้มเถอะยิ้ม ยิ้มน่ารัก เป็นหนักหนา
ยิ้มเถอะยิ้ม ยิ้มสดใส วิไลตา
ยิ้มเถอะยิ้ม ยิ้มนำพา มิตรสัมพันธ์
ยิ้มเถอะยิ้ม ยิ้มหยาดหยด ความสดชื่น
ยิ้มเถอะยิ้ม ยิ้มหยิบยื่น ความสุขสันต์
ยิ้มเถอะยิ้ม ยิ้มสื่อแสดง การแบ่งปัน
ยิ้มเถอะยิ้ม ยิ้มป้องกัน อันตราย
ยิ้มเถอะยิ้ม ยิ้มเยียวยา รักษาโรค
ยิ้มเถอะยิ้ม ยิ้มดับโศก ระส่ำระสาย
ยิ้มเถอะยิ้ม ยิ้มจริงจัง อย่าซังกะตาย
ยิ้มเถอะยิ้ม ยิ้มเบาสบาย ทั้งกายใจ
ยิ้มเถอะยิ้ม ยิ้มน้อยน้อย บนใบหน้า
ยิ้มเถอะยิ้ม ยิ้มนำพา ความสุกใส
ยิ้มเถอะยิ้ม ยิ้มพา สุขฤทัย
ยิ้มเถอะยิ้ม ยิ้มให้ชื่น รื่นอุรา




หนึ่งสมองสองมือคือทุนเริ่ม
จิตใจเพิ่มมุ่งมั่นไม่หวั่นไหว
อุตสาหะบ่มร่ำเพียรทำไป
นี่แหละไซร้เครื่องมือถือครองทรัพย์

คติธรรม
๑. หมั่นทำความดีบารมีจะเกิด ทำดีไว้เถิดจะเกิดบารมี
๒.การเข้าใจกันและยอมรับกันเป็นโซ่ทองคล้องมิตรภาพ
๓.อารมณ์ทำให้คนหนี อารีทำให้คนห้อมล้อม
๔. บ้านที่อยู่ใกล้กัน ใช้ใจล้อมดีกว่าใช้รั้วล้อม
๕. ทำประโยชน์โดยหน้าที่เป็นความดี ทำประโยชน์โดยสมัครใจเป็นบุญ
๖. อดทนเป็นเครื่องมือสร้างสรรค์ อดกลั้นเป็นเครื่องมือรอมชอม อดออมเป็นเครื่องมือมั่งมี
๗. ทำตัวให้มีค่า คนก็เห็นคุณค่า ทำตัวให้ไร้ค่า คนก็ไม่เห็นคุณค่า
ทำบุญทำไม
๑. ทำบุญเอาหน้า
๒. ทำบุญเอาตรา
๓. ทำบุญโฆษณา
๔. ทำบุญพึ่งพา


ฟังเทศน์ได้อะไร
๑. ได้เพิ่มปัญญา
๒. ได้พัฒนาความคิด
๓. ได้เปลื้องปลิดความสงสัย
๔. ได้ปรับความเห็นให้ตรง
๕. ได้ดำรงสติมั่น


คาถาขายของดี
๑. งามใบหน้า ลูกค้าชอบใจ
๒. งามกิริยา ลูกค้าถูกใจ
๓. งามวาจา ลูกค้าหลงใหล
๔. งามบริการ ลูกค้าบานตะไท

ศีล ๕ ราคามนุษย์
๑. มีศีลครบ ๕ ข้อ เป็นมนุษย์ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์
๒. มีศีล ๔ ข้อ เป็นมนุษย์ ๘๐ เปอร์เซ็นต์
๓. มีศีล ๓ ข้อ เป็นมนุษย์ ๖๐ เปอร์เซ็นต์
๔. มีศีล ๒ ข้อ เป็นมนุษย์ ๔๐ เปอร์เซ็นต์
๕. มีศีล ๑ ข้อ เป็นมนุษย์ ๒๐ เปอร์เซ็นต์
๖. ไม่มีศีลสักข้อ หมดความเป็นมนุษย์




เหตุบัญญัติศีล ๕
๑. มุ่งให้ปลูกไมตรีระหว่างกันและกัน
๒. มุ่งให้เลี้ยงชีพทางที่ชอบ
๓. มุ่งให้ไม่ละเมิดสิทธิของกันและกัน
๔. มุ่งให้ไม่ประมาท





อานิสงส์ศีล ๕
๑. ศีลส่งให้สูง
๒. ศีลปรุงให้สวย
๓. ศีลนำทำให้รวย
๔. ศีลช่วยทำให้รอดปลอดภัย


มิตร
๑. ไม่จับผิด
๒. ไม่ริษยา
๓. ไปมาหาสู่
๔. อยู่อย่างมีน้ำน้ำใจ

คาถาแก้จน
จนทรัพย์ให้เสกหัวใจเศรษฐี อุ อา ก ส

คาถาภาวนาเอาตัวรอด
หมั่นหาใช้ให้เหลือไว้เผื่อจ่าย
ค่อยออมใช้ให้เหลือไว้เผื่อเก็บ
หากหาใช้ไม่เหลือไว้เผื่อเซฟ
คราวป่วยเจ็บเอาไหนมาใช้เอย




จนความรู้ ให้เสกคาถาหัวใจบัณฑิต สุ จิ ปุ ลิ

จนความรัก ให้เสกหัวใจพระพรหม เม ก ม อุ (เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา)

จนยศศักดิ์ ให้เสกคาถามหานิยม ๓ อ่อน คือ อ่อนน้อม อ่อนหวาน อ่อนโยน

จนเพื่อน ให้เสกคาถาหัวใจสังคหะ ทา ปิ อัต สะ ( ทาน ปิยวาจา อัตถจริยา
สมานัตตตา)(โอบอ้อมอารี วจีไพเราะ สงเคราะห์ทุกคน วางตนพอดี)



จนบุญกุศล ให้เสกคาถาบุญกิริยาวัตถุ ๓ คือ ทา ศี ภา (ทาน ศีล ภาวนา)


เพื่อน
กินกัน ฉันด้วยตีกัน ฉันป่วย อร่อย บอกด้วย ถึงป่วย ก็จะไป

จน
- จนเพราะไม่มี
- จนเพราะไม่พอ
- จนเพราะไม่เจียม
- จนเพราะไม่จำ
กิจของพ่อแม่
- รักษาศีลให้ลูกดู
- กตัญญูให้ลูกเห็น
- เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ลูกเห็น
-
คาถากันหย่าร้าง
- ขยัน ทำมาหากิน เก็บหอมรอมริบ
- เอา อกเอาใจกัน
- เข้าไว้ อกเข้าใจกัน
- ไว้เนื้อเชื่อใจกัน

แม่บ้าน
- เก่งครัว
- เก่งคลัง
- เก่งช่าง
-เก่งหมอ

แม่ครัว
- ยอดหา
- ยอดทำ
- ยอดคำ
- ยอดใจ

ลูกดี ๔ ช.
- เชื่อ
- ช่วย
- ชื่น
- เชิด







วิชาเหมือนสิ้นค้า
วิชาเหมือนสิ้นค้ามีค่าไกล
ต้องยากลำบากไปจึงได้สิ้นค้ามา
จงตั้งเอากายเจ้าเป็นสำเภาอันโสภา
ความเพียรเป็นโยธาแขนซ้ายขวาเป็นเสาใบ
นิ้วเป็นสายรยางค์สองเท้าต่างสมอใหญ่
ปากเป็นนายงานไปอัชฌาสัยเป็นเสบียง
สติเป็นหางเสือถือท้ายเรือไว้ให้เที่ยง
ถือไว้อย่าให้เอียงตัดแล่นเลี่ยงข้ามคงคา
ปัญญาเป็นกล้องแก้วตรวจดูแถวแนวหินผา
เจ้าจงเอาหูตาเป็นล้าต้าฟังดูลม
ขี้เกียจคือปลาร้ายจะทำลายเรือให้จม
เอาใจเป็นปืนคมยิงระดมให้จมไป
จึงจะได้สินค้ามาคือวิชาอันพิสมัย
จงหมั่นมั่นหมายใจอย่าได้คร้านการวิชา
**********************


การใช้เงิน
น้ำรั่วทีละน้อยรั่วบ่อยๆน้ำก็หมด
เงินทองของหายากหากใช้มากเงินย่อมหมด
เงินทองของใช้สอยใช้บ่อยๆเงินก็หมด
จะรู้ว่าเงินมีค่าก็เมื่อน้ำตาเราหยด




เพื่อไมตรีต้องให้
ให้เสื้อผ้าอีกยารักษาโรค
เครื่องอุปโภคเงินทองของขบฉัน
ให้ที่อยู่อาศัยอภัยกัน
ให้ธรรมนั้นเป็นไปเพื่อไมตรี


เงินหมด
นอนนานงานน้อย ใช้บ่อยเงินหมด
มีเงินหน้าสด หมดเงินหน้าแห้ง
ตื่นเช้าได้งานหลาย ตื่นสายได้งานน้อย







พระ๓ หน้า
๑. หน้าไหว้
๒. หน้ากราบ
๓. หน้าบูชา

ร่มเย็น
ร่มไม้เย็นพักผ่อนหายร้อนอาตม์
ร่มเงาญาติเย็นสบายหายเงียบเหงา
ร่มพ่อแม่เป็นสุข ทุกข์บางเบา
เกิดเย็นเกล้าเคล้าคลุกอยู่ทุกยาม
ร่มอาจารย์กันเขลาเกิดเชาว์กล้า
ร่มราชากันศัตรูให้รู้ขาม
ร่มพระพุทธกันร้อนผ่อนลุกลาม
ให้โลกสามเย็นชื่นกว่าอื่นใด


วัยชีวิต
· ต้วมเตียม
· เตาะแตะ
· เต่งตึง
· โตงเตง
· ต้องตาย










วิธีสร้างไมตรีจิต
· ยิ้มแย้มแจ่มใส
· ตั้งใจสนทนา
· วาจาประทับใจ
· ให้รางวัล
· ของขวัญของฝาก
· พลัดพรากร่วมอาลัย

ทำไมจึงให้ทาน
· ให้เพื่อบูชา
· ให้เพื่อทำบุญ
· ให้เพื่อทำคุณ
· ให้เพื่อสนองคุณ
· ให้เพื่อการุณ
· ให้เพื่อเกื้อกูลมิตร
เห็นหน้ากันอยู่เมื่อเช้า สายตาย
สาย อยู่สุขสบาย บ่ายม้วย
บ่ายสดชื่นรื่นราย เย็นดับชีพแฮ
เย็นอยู่หยอกลูกด้วย ค่ำม้วยอาสัญ




ชีวิตเหมือนเรือน้อยร่องลอยอยู่
ต้องต่อสู้แรงลมประสมคลื่น
ต้องทนทานหวานสู้อมขมสู้กลืน
ต้องทนฝืนสู้ภัยไปทุกวัน
เป็นการง่ายยิ้มได้ไม่ต้องฝืน
เมื่อจิตชื่นเหมือนบรรเลงเพลงสวรรค์
แต่คนที่ควรชมนิยมกัน
ต้องใจมั่นยิ้มได้เมื่อภัยมา

เกิดเป็นคนควรหวังอย่ายั้งหยุด
มิรู้สุดมุ่งหวังตั้งมาดหมาย
หวังไว้เถิดหวังยั้งยืนไม่คืนคลาย
ปราชญ์ทั้งหลายสมหวังเพราะตั้งใจ

โลกนี้คือโรงละคร ปวงนิกรเราท่านเกิดมา
ต่างร่ายรำไปตามทีท่า ตามลีลาของบทละคร
บางครั้งก็เศร้าบางคราวก็สุข บางทีก็ทุกหัวอกสะท้อน
มีพบมีพราก มีจากมีจร เมื่อจบละครชีวิตก็ลา






หน้าที่พ่อแม่
แนะให้ทำ
นำให้ดู
อยู่ให้เห็น
เย็นให้สัมผัส

อันนินทากาเลเหมือนเทน้ำ ไม่ชอกช้ำเหมือนเอามีดมากรีดหิน
แม้พระพุทธปฏิมายังราคิน มนุษย์เดินดินหรือจะสิ้นคนนินทา

การทำที่ดี
ทำถูกต้อง
ทำถูกตา
ทำถูกหู
ทำถูกใจ

ประโยชน์ของนม
· สด...เพราะออกจากเต้า
· อุณหภูมิพอเหมาะ
· มีคุณค่าทางอาหาร
· บรรจุในภาชนะน่าจับต้อง



นมแม่
นมโค นมหมี มะลิ เรือใบ
นมไหนๆก็แพ้นมแม่ฉัน
ให้ความอิ่มให้ความสุขทุกคืนวัน
ฉันได้พบค่าความดีนี้จากน้ำนม


แม่สอน
วันนี้พลาด พรุ่งนี้พลั้งยั้งไม่อยู่
วันนี้สู้พรุ่งนี้ถอยค่อยสร้างเสริม
วันนี้รุกพรุ่งนี้ร้าวทุกก้าวเดิน
วันนี้เขินพรุ่งนี้ดังถ้าตั้งใจ


ลูก
ลูกศิษย์โชว์วัด
ลูกสัตว์โชว์เจ้าของ
ลูกน้องโชว์เจ้าของ
ลูกน้องโชว์เจ้านาย
ลูกหญิงลูกชายโชว์พ่อโชว์แม่
ลูกศิษย์ตอบแทนคุณวัด
ลูกสัตว์ตอบแทนคุณเจ้าของ
ลูกน้องตอบแทนคุณเจ้านาย
ลูกหญิงลูกชายตอบแทนคุณพ่อคุณแม่

ลูกดี ๔ ช.
๑. เชื่อ
๒. ช่วย
๓. ชื่น
๔. เชิด

เหตุที่ทำให้อายุยืน
· มีวาสนาเป็นทุน
· มีบุญเป็นยา
· มีเมตตาเป็นบ้าน
· มีลูกหลานเป็นผ้าห่ม
· มีอารมณ์สดชื่น แล้วจะอายุยืนเป็นร้อยปี



สิ่งที่หนีไม่พ้น ๕ อย่าง
๑. ความแก่
๒. ความเจ็บ
๓. ความตาย
๔. การพลัดพราก
๕. การรับผลของการกระทำ




ยาใจ

เป็นโรคกายหมอยารักษาโรค
ถูกโฉลกถูกเหตุผลดลโรคหาย
เป็นโรคใจภัยรุมเร้าเศร้าปางตาย
ทุกข์มลายเมื่อรู้ใช้โอสถธรรม

สิ่งที่เหลื่ออยู่

อันกายสัตว์อุบัติในโลกนี้
ดูไม่มีอะไรเป็นแก่นสาร
พอสิ้นลมก็พลอยจมถมดินดาน
แต่ชื่อเสียงยังยืนนานอยู่ทุกวัน

ถ้าจะตาย
ไม่ถึงคราวตายไม่วายชีวาต์ ใครเข่นฆ่าพิฆาตไม่อาสัญ
เมื่อถึงคราวตายวายชีวาวัน ไม้จิ้มฟันทิ่มเหงือกก็เสือกตาย








กตัญญูรู้คุณท่านสำคัญนัก
นี้เป็นหลักคนดีมีครบถ้วน
ตอบแทนท่านให้งามตามสมควร
คนดีล้วนใจมั่นกตัญญู

บุญเป็นเงาเฝ้าตามติด บุญเป็นมิตรในทุกที่
คอยช่วยเหลือเอื้ออารี ห่างราคีปลอดโพยภัย
บุญพิทักษ์บุญรักษา บุญนำพาพบสุขใส
แม้ชีพลับดับล่วงไป บุญส่งให้สวัสดี


มาให้ดีมีธรรมประจำจิต
ดีจะติดต่อตั้งเมื่อยังอยู่
ไปให้ดีมีธรรมเข้าค้ำชู
ดีจะอยู่แบ่งภาคเมื่อจากไป









เพื่อ
· เกิดเพื่อรอเวลาตาย
· ได้เพื่อรอเวลาเสีย
· มีเพื่อรอเวลาหมด
· เจอเพื่อรอเวลาจาก
· พบเพื่อรอเวลาพราก
· สุขเพื่อรอเวลาโศก

วิธีหาทรัพย์
· ขยันหา
· รักษาไว้
· ใกล้บัณฑิต
· เลี้ยงชีวิตให้เหมาะสม

ปิด
· ปิดปากไว้ไม่พูดจา ดีกว่านินทาชาวบ้าน
· จงปิดหูของเราดีกว่าระวังปากคนอื่น
ผู้ให้
· ให้ข้าว น้ำ ชื่อว่าให้กำลัง
· ให้ผ้า ชื่อว่าให้ผิวพรรณ
· ให้ขึ้นรถ ชื่อว่าให้ความสะดวก
· ให้ประทีป ชื่อว่าให้ดวงตา
บางเวลา
· บอดเสียบ้างบางคราวนะเจ้านะ
· หนวกเสียบ้างบางวาระนะเจ้าหนา
· ใบ้เสียบ้างบางวันอย่าจรรจา
· หลับเสียบ้างบางเวลาอย่ารู้ตัว
คนเก่ง
· พระเก่งมนต์
· คนเก่งงาน
· สมภารเก่งสู้
· ครูที่เก่งสอน
ถ้าเราเก่งย่อมเป็นที่รักเชิดชูของคนทั่วไป


ดุจท่อนฟืน
อจิรํ วตยํ กาโย ปฐวิง อธิเสสสะติ
ฉุฑฺโฑ อเปตวิญญาโณ นิรตฺถํว กะลิงครัง ฯ
โอ้...กายไม่นานหนอ บังเกิดก่อแล้วกลับกลาย
ดุจฟองแห่งน้ำหมาย แล้วแตกดับโดยฉับพลัน
สิ้นลมแห่งหายใจ ชีพบรรลัยบ่กลับหัน
ห่อนมีสิ่งสำคัญ เพื่อประโยชน์สักนิดเดียว
ทอดทิ้งดุจท่อนฟืน กลิ้งเหนือพื้นสุธาเทียว
พองช้ำเน่าดำเขียว ส่งกลิ่นฟุ้งบ่เว้นวาง
ดูเถิดท่านทั้งหลาย บุรุษนายคณานาง
ควรปลงปัญญาทาง ปรมัตถอรรถธรรม
พยานปรากฏแก่ จักษุแท้บ่ปิดงำ
ควรคิดพินิจจำ หีบศพนั้นอันแลเห็น ฯ

*************
ของไม่เที่ยง
อนิจฺจา วต สงฺขารา อุปฺปาทวยธมฺมิโน
อุปปัชชิตฺวา นิรุชฺฌนฺติ เตสํ วูปสโม สุโข ฯ
โอ้ โอ๋ อนิจจา สังขาราไม่เที่ยงตรง
หนุ่มแก่ย่อมจักปลง ชีวิตม้วยอย่าสงกา
อุบัติเกิดแล้วก็กลับ วิญญาณดับจากสรีรา
ขาดสิ้นแห่งปาณา วิการกายก็เป็นไป
บ่เที่ยงบ่ทนทาน บ่อยู่นานสักเพียงใด
ย่อมเสื่อมย่อมสิ้นไป ทุกคณานิกรชน
สิ่งสุขอันประเสริฐ สุขล้ำเลิศสถาผล
คือจิตอย่ากังวล เบญจกามคุณา
ดับสนิทในสังขาร ที่จิตซ่านคือตัณหา
ไม่ใคร่ในภวา วิภวประเสริฐแล

***********
หมดมิตร

เมื่อมั่งมีมากมายมิตรหมายมอง
เมื่อมัวหมองมิตรมองเหมือนหมูหมา
เมื่อไม่หมดมิตรมุ่งมองมา
เมื่อมอดม้วยหมูหมาไม่มามอง


เพื่อนแท้
อันเพื่อนแท้แม้มีหนึ่งถึงจะน้อย
ดีกว่าร้อยเพื่อนที่คิดริษยา
เกลือก้อนหนึ่งถึงจะน้อยด้อยราคา
ยังมีค่ากว่าน้ำเค็มเต็มทะเล



เกร็ดความรู้และคำคมต่างๆ
· แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมาร
· หวานเป็นลมขมเป็นยา
· ทำงานทุกชนิดด้วยจิตว่าง
· เตือนใจตนวันละนิดจิตอ่อนโยน
· ข่มใจตนทุกขณะจิตชีวิตจะพบกับความสงบ
· ผู้ใหญ่ดึง ผู้น้อยดัน คนเสมอกันพยุงไว้
· อยู่สูงให้นอนคว่ำ นอนต่ำให้นอนหงาย
· จงกินเพื่ออยู่แต่อย่าอยู่เพื่อกิน
· คนชั่วตายดี คนดีตายเสีย
· ข้างหน้ามะพลับ ลับหลังตะโก
· ข้างหน้าต้นโพธิ์ ลับหลังต้นไทร
· ข้างหน้าตำลึง ลับหลังตำแย
· จงตื่นแต่ดึก สึกแต่หนุ่ม
· คนดีจงนับถือ คนชั่วจงนับทิ้ง
· คนใจดีย่อมทำให้คนอื่นดีใจด้วย
· คนใจเสียย่อมทำให้คนอื่นเสียใจด้วย
· เชื่ออะไรก็เชื่อได้ เชื่อไม่ได้แต่ใจคน
· คนขี้เกียจเหมือนแมลงวัน คนขยันเหมือนแมลงผึ้ง
· จงสู้หิวด้วยอาหาร
จงสู้กาลด้วยความเพียร
จงสู้เรียนความคิด
จงสู้มิตรด้วยการเสียสละ
· คิดทำไม่คิดแก้ อย่าคิดเสียดีกว่า
· การเสียเวลา หมายถึงการเสียชีวิต ถ้าท่านรักชีวิตท่านต้องรักเวลาด้วย
· กรรมชั่วต้องตัด กรรมดีต้องต่อ
· อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง
· คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย สามคนกลับบ้านได้
· อย่าชักน้ำเข้าลึก อย่าชักศึกเข้าบ้าน
· คนดีรู้คุณ คนไม่ดีหลู่คุณ
1. คนดีมีความคิด คนไม่ดีมีพิษ
· ผู้เตือนคือผู้หวังดี ผู้ปราณีคือผู้ใหญ่
· ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน
· ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน
· กำแล้วแบ จะแลเห็นกรรม
· กำไว้แน่น จะเห็นแต่แก่นระกำ
· เป็นจระเข้อย่าโตกว่าหนอง
· เป็นคนฉลาดอย่าขาดความรอบคอบ
· โจรที่คอยปล้นเวลา คือความเกียจคร้าน
· เวลาดีก็ชอบจิต เวลาผิดก็ชอบใจ คือ ทรมิตร
· เวลาทุกข์ก็ช่วยแก้ เวลาแย่ช่วยแก้ไข คือ วรมิตร
· นอนนานงานน้อย ใช้บ่อยเงินหมด มีเงินหน้าสด หมดเงินหน้าแห้ง ตื่นเช้าได้งานหลาย ตื่นสายได้งานมาก
· มีเกินใช้ ได้เกินเสีย ดี
· เสียเกินได้ ใช้เกินมี เสีย
· คบคนให้ดูท่า ซื้อผ้าให้ดูกระเป๋า
· ทำบุญยุคพัฒนา
1. ทำบุญเอาหน้า
2. ทำบุญเอาตรา
3. ทำบุญเพื่อโฆษณา
4. ทำบุญเพื่อพึ่งพา
· พหูสูต
ฟังรู้ ดูออก บอกถูก ทำเป็น
· หลักของคน
หลักแหล่ง หลักฐาน หลักธรรม
· การทำที่ดี
เหมาะเจาะ หมดจด ถูกบท ถูกแบบ
· บันไดก้าวสู่ความร่ำรวย
อดทน อดกลั้น อดออม หาพอใช้ จ่ายมีเหลือ
· แหล่งเจริญต้องมี
เศรษฐี หมอยา พ่อค้า คงคา อาวาส
· วิธีหาความสบาย
ปิดหูซ้าย-ขวา ปิดตาสองข้าง หุบปากเสียบ้าง นั่งนอนสบาย
· ปลุก
ปลุกปลอบ ปลุกเสก ปลุกปล้ำ
· เรือน ๓
เรือนครัว เรือนนอน เรือนใจ
· น้ำ ๔
น้ำมือ น้ำคำ น้ำใจ น้ำใช้
· คนเกิดมาต้องผ่าน ๓ น้ำ
อาบน้ำร้อน หย่อนน้ำสังข์ หลั่งน้ำตา
· รักของพ่อแม่
รักจริง สงสารจริง ดีใจจริง ตั้งใจจริง
· กิน ๒ ประเภท
กินตัวตั้ง กับ กินตั้งตัว
· ผู้ใหญ่สอน
เป็นเด็ก จงตั้งหน้า ตั้งตา
แต่งงาน จงตั้ง เนื้อตั้งตัว
ตอนแก่ จงตั้งอก ตั้งใจ
· วิธีผูกใจคน
พึงผูกคนโลภด้วยทรัพย์ พึงผูกคนกระด้างด้วยคำนับ
พึงผูกคนโง่ด้วยตั้งใจ พึงผูกปราชญ์ด้วยความสัตย์
· ลักษณะของน้ำ
1. ชุ่มเย็น
2. รวมตัวไม่แตกจากกัน
3. ชำระสิ่งสกปรก
4. ไม่เลือกว่ามีหรือจน ยาจกหรือเศรษฐี สามัญชนหรือกษัตริย์
· พุทธศาสนาประกอบด้วย
1. ศาสนบุคคล
2. ศาสนวัตถุ
3. ศาสนสถาน
4. ศาสนกิจ
5. ศาสนธรรม
· พ่อแม่เป็นพระ ๓ องค์ของลูก
1. เป็นพระผู้สร้าง (ให้เกิด)
2. เป็นพระผู้รักษา (เลี้ยงดู)
3. เป็นพระผู้ทำลาย (ขจัดปัดเป่าอันตราย)

อานิสงส์การปิดทอง
· สุวณฺณตา ทำให้มีผิวพรรณงดงาม
· สุสรตา ทำให้มีเสียงไพเราะ
· สุสัณฐานํ ทำให้มีทรวดทรงงาม
· สุรูปตา ทำให้มีรูปสวย



จงอย่าคบคนพาลสันดานหยาบ
ซึ่งมีบาปทุจริตเป็นนิสัย
จงสมคบกับคนดีที่มีใจ
อันสดใสด้วยธรรมประจำตน
จงหมั่นทำแต่บุญให้อุ่นจิต
เหมือนมีมิตรเคียงข้างไม่ห่างหาย
จงหมั่นนึกอย่าว่างว่าร่างกาย
กับความตายเนื่องกันทุกวันเทอญ
ชีวิตนี้มีหวังยังต้องเกิด
รีบทำเถิดบุญทานการกุศล
บุญจะทำตามลิขิตชีวิตคน
ติดตามตนต่อไปในโลกา
อยู่ก็ดีไปก็ดีมีประโยชน์
ได้สร้างโบสถ์สร้างวัดด้วยหัตถา
ได้ช่วยชาติบ้านเมืองเลื่องลือชา
ได้ฉายาวีรชนคนดีเอย

วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2553


ทั้งสามโลก ยกตั้ง ขึ้นชั่งเปรียบ
หนักไม่เทียบ คุณพ่อแม่ สุดแลหา
แม้อกอุ่น สุริยันห์ และจันทรา


อกมารดา อิงอุ่น กว่าศูนย์จันทร์
ถึงธารทิพย์ หลั่งไหล มาให้ดื่ม
มิปลาบปลื้ม ซาบซ่าน เท่าธารถัน
แม้นางฟ้า มาอุ้ม ช่วยคุ้มกัน
มิเทียบทัน ตาพ่อแม่ ที่แลมอง
ถึงสังขาร ลานแหลก แม่แลกได้
หวังจะให้ ลูกตน พ้นภัยผอง
แม้สูญสิ้น ดินฟ้า ธารานอง
พระคุณของ พ่อแม่นี้ มีมากเอย.

วันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

สรภัญญะกราบตักแม่

สิบนิ้วลูกวันทา น้อมบูชา คุณมารดร
ย้อนหลัง เมื่อครั้งก่อน ในอุทรตั้งเก้าเดือน ๆ
ทศมาสแล้วก็เคลื่อน แม่นี้เหมือน จะขาดใจ
เจ็บปวดจนร้องไห้ กว่าจะได้แต่ละคนๆ
อดทนเรื่องกินยาก แสนลำบาก ยามลูกวอน
เมื่อครั้งลูกยังอ่อน ถึงยามนอนแม่แกว่งไกวๆ
ลงเปลแล้วเห่กล่อม คุณแม่ยอม เหนื่อยกว่าใคร
ตื่นนอนป้อนนมให้ ยามป่วยไข้ให้หยูกยา ๆ
ยามลูกร้องแม่ผวา ปวดอุราแสนห่วงใย
ค่อยถนอมอยู่ไม่ไกล จะมีใครเหมือนแม่นาๆ
บางทีอึขี้ราด ล้างสะอาด ทุกเวลา
คุณแม่มีเมตตา กรุณาบุตรทุกคน ๆ
อบอุ่นด้วยความรัก นอนบนตักแม่หลายหน
ผ่ายผอมแม่ยอมทน ลูกหลายคนเลี้ยงดูมาๆ
พร่ำสอนเรื่องภาษา ให้ลูกยามาก่อนใคร
เลี้ยงลูกจนเติบใหญ่ แสนห่วงใยกว่าใครเลยๆ
พระคุณแม่มีมากมาย สุดสรรหามาอ้างเอ่ย
มาเทียบและเปรียบเปรย หาใครเลยเหมือนแม่นา ๆ
รักลูกอย่างจริงแท้ รักของแม่ยิ่งชีวา
ลูกล้วนควรบูชา คุณมารดาค่าน้ำนม ๆ
พุทธองค์ทรงดำรัส ท่านทรงตรัส ไว้เหมาะสม
มารดาดุจพระพรหม อย่าทับถมคุณท่านเลย...ๆ
********************

วันศุกร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

สรภัญญะพระคุณพ่อแม่


พระคุณพ่อ พระคุณแม่
สิบนิ้ว พนมกร อุระอ่อน คนึงใน
น้อมนึก รำลึกหมาย ถึงบิดา และมารดา
ท่านผู้บังเกิดเกล้า ฯ วาระคุณ ยิ่งภูผา
ใหญ่พื้น พสุธา ก็บ่เทียบ บ่เทียมทัน
เหลือที่ จะแทนทด จะสนอง คุณานันท์
ลูกคิด และรำพัน พระคุณอยู่ มิรู้วาย
พระคุณ ท่านมากล้ำ สุดจะนำ มาบรรยาย
แรกเกิด กำเนิดกาย อุระแม่ ก็ร้อนรน
เผ็ดร้อน แม่หลีกเลี่ยง อุระเพียง ถนอมชนม์
ให้ลูก ปฏิสนธิ์ สุขะสุข ในอุทร
นอนนั่ง ระวังกาย ผิบ่ให้ ลูกอาวรณ์
จวบจน วาระรอน นะวะมาศ กำหนดการ
แม่รัก ถนอมยิ่ง ทั้งลูกหญิง และชายชาญ
แม่มุ่ง ผดุงมาลย์ ทะระเจ้า เจริญวัย
สอนคลาน และสอนนั่ง แม่ระวัง เวลาไกล
แม่มิ ยอมจากไกล คะละเฝ้า และเชยชม
เหนื่อยยาก สักปานใด อุระแม่ ห่อนปรารมย์
ขอลูก เจริญสม เจตะแม่ ก็สุขใจ
ใครหนอ ในโลกนี้ ที่จะมี คุณมากหลาย
มากล้ำ สุดบรรยาย ธะบิดา และมารดา
ลูกน้อม คนึงนึก อุระตรึก คนึงหา
พระคุณ ควรบูชา ไว้เหนือเกล้า ฯ มิรู้วาย

สรภัญญะพระคุณแม่


ข้าขอกราบไหว้คุณพระบิดาและมารดา เลี้ยงลูกเฝ้ารักษาแต่ก่อนมาจึงเป็นคน

แสนยากลำบากกายไม่คิดยากลำบากตน ในใจไร้กังวลอยู่กับลูกทุกเวลา

กลัวเรือดยุงไรมดจะกวนกายรีบอุ้มชู อดกินอดนอนสู้ทนลำบากหนักไม่เบา

คุณพ่อแม่มากนักเปรียบน้ำหนักยิ่งภูเขา แผ่นดินทั้งหมดเอาเปรียบคุณท่านไม่เท่าทัน

เหลือที่จะแทนคุณของท่านนั้นให้อนันต์ เว้นไว้แต่เรียนธรรมเอามาสอนพอผ่อนบุญ

สอนธรรมที่จริงใจรูปไม่เที่ยงไว้เป็นทุน แล้วจึงแสดงคุณให้เห็นจริงตามทำนอง

นั้นแหละจึงนับได้ว่าสนองคุณท่านนา แทนข้าวที่ป้อนมาและน้ำนมที่ดื่มกิน


(จำตามๆกันมา)